Mango Swirl Cheesecake : ชีสเค้กมะม่วง

          อารมณ์อยากทานชีสเค้ก.....ใครเป็นเหมือนต๋อยบ้างค่ะ คือมันอยากทานมาก แต่พอซุปเปอร์มาร์เก็ต ซื้อของ เข้าบ้าน ทำกับข้าว ทานข้าว ทำความสะอาดครัว ทำความสะอาดบ้าน อาบน้ำให้ลูก พาลูกเข้านอน เล่นเฟซบุ๊ค ง่วง และก็นอน  อ้าวแล้วไหนหล่ะชีสเค้กที่อยากกิน จนเวลาล่วงเลยไปความอยากมันก็ยังมีอยู่ แต่บางครั้งก็ทั้งเหนื่อยและขี้เกียจ โดยเฉพาะการเก็บกวาดห้องครัวหลังจากทำขนมเสร็จ 

          แต่ในที่สุดแล้วก็มีเหตุให้ต้องทำชีสเค้ก.....เมื่ออาทิตย์ก่อนเราได้มะม่วงน้ำดอกไม้มา 2 ลูกใหญ่ ๆ ราคาลูกละตั้ง 80 บาท พอเอามาปอกทาน ครึ่งลูก ปรากฎว่าเปรี้ยวมาก ๆ ไม่มีความอร่อยเอาซะเลย ทั้งโกรธ ทั้งโมโห เก็บใส่ตู้เย็นไว้ดังเดิม ผ่านไปอีก 1 อาทิตย์ เกรงว่ามันจะเน่าไปซะก่อน ต้องรีบจัดการ...จึงออกมาเป็นชีสเค้กมะม่วงน้ำดอกไม้

          ถ้านึกถึงสูตรชีสเค้กอร่อย ๆ ไม่หวาน และรูปภาพประกอบสวย ๆ ต้องนึกถึงคุณอุ้ย เจ้าของบล็อค แม่ครัวจอมมั่วนิ่ม ที่มีสูตรอาหารและขนมมากมาย และต๋อยก็ไปฉกสูตรชีสเค้กมะม่วงจากบล็อคคุณอุ้ย มา สูตรต้นฉบับ คลิกที่นี่ค่ะ


วีดีโอที่ต๋อยทำค่ะ  คลิกที่นี่


ส่วนผสมฐานชีสเค้ก
แครกเกอร์บดละเอียด 1 ถ้วย (ต้นฉบับใช้ครึ่งถ้วย)
น้ำตาลทรายแดง 1 ชต.
เนยละลาย 3 ชต.
เกลือหยิบมือ กรณีแครกเกอร์จืด

วิธีทำ 
1.ในแครกเกอร์ เกลือและน้ำตาลทรายแดง ลงในเครื่องปั่นฟู้ดโปรเซสเซอร์ ปั่นให้ละเอียด จากนั้นค่อย ๆ เทเนยละลายลงไปผสม จนส่วนผสมเป็นเนื้อทรายร่วน ๆ 
2.ทาเนยบาง ๆ ให้ทั่วพิมพ์สปริงฟอร์ม ขนาด 7 นิ้ว แล้วโรยด้วยแป้งเค้กบาง ๆ ให้ทั่ว 
3.นำแครกเกอร์ที่บดไว้ใส่ลงไปในพิมพ์ เกลี่ยให้ทั่ว กดให้แน่น นำเข้าช่องฟรีซหรือตู้เย็นธรรมดา ต๋อยจัดช่องฟรีซเลย หุหุ จะได้เซทตัวไวๆ


ส่วนผสมซอสมะม่วง
มะม่วงสุกบดละเอียด กรองเอากากออก 100 กรัม
น้ำตาลทราย 10 กรัม
น้ำมะนาว 1 ชช.
ผงเจลลี่ 1 ชช.

วิธีทำ
1.ปั่นมะม่วงให้ละเอียดที่สุดเท่าที่จะทำได้ จากนั้นใช้กระชอนกรองเอาแต่เนื้อ 
2.นำเนื้อมะม่วงมาผสมกับน้ำตาลทรายและน้ำมะนาว คนให้เข้ากัน 
3.ใส่ผงเจลลี่คนให้ละลาย ขึ้นตั้งไฟอ่อน พอเดือด ปิดไฟพักไว้

ส่วนผสมชีสเค้ก
ครีมชีส 300 กรัม
ไข่ไก่ 1 ฟอง
น้ำตาลทราย 60 กรัม
โยเกิร์ตธรรมชาติ 2 ชต.
วนิลลาแอ็คแทรค 1/4 ชช.
วิปปิ้งครีม 150 กรัม (ต้นฉบับใช้เฮฟวี่ครีม)
น้ำมันพืช 1 ชต.
แป้งเค้ก 2 ชต.

*ทุกอย่างต้องอยู่ที่อุณหภูมิห้องนะคะ

วิธีทำ

1.เปิดเตาอบที่ 175 C ไฟบนล่าง 

2.ตีครีมชีสด้วยความเร็วปานกลางให้เนื้อเนียน จากนั้นทยายใส่น้ำตาลลงไปตีจนหมด จากนั้นใส่ไข่ โยเกิร์ต วนิลลา วิปปิ้งครีม น้ำมันพืช และแป้ง ตีแค่ให้พอเข้ากันอย่าตีนาน จากน้้นใส่แป้งแล้วตีด้วยความเร็วต่ำให้เข้ากัน

**ต๋อยไปเจอสูตรชีสเค้กของฝรั่งมาคนนึง เค้าใส่ไข่เป็นอันดับสุดท้ายและตีเพียงให้เข้ากัน ถ้าตีนานจะทำให้หน้าชีสเค้กแตกค่ะ

3.คนด้วยไม้พายเพื่อเช็คว่ามีก้อนแป้งหรือชีสที่ยังไม่เข้ากันหรือไม่ ถ้าไม่มีแล้ว เทลงพิมพ์ โดยเทส่วนผสมชีสเค้กลงไปครึ่งนึง จากนั้นหยดซอสมะม่วงลงไปครึ่งนึง ใช้ไม้คนให้เป็นลวดลายสวยงาม แล้วเทส่วนผสมชีสเค้กที่เหลือลงไป หยดซอสมะม่วงส่วนที่เหลือ ใช้ไม้คนทำลวดลายอีกรอบ

4. จากนั้นนำเข้าเตาอบ โดยวางพิมพ์ไว้ตรงกลางของเตาอบ ใช้เวลาในการอบ 50 นาที

5.เมื่อครบตามกำหนดแล้ว ปิดเตา วางเค้กไว้ในเตาอบ เปิดฝาเตาแง้มไว้ 20 นาที แล้วนำออกมาวางไว้บนตะแกรงรอให้เย็น แกะออกจากพิมพ์ เข้าตู้เย็น 1 คืนแล้วตัดเสิร์ฟ

***หากต้องการทำชีสเค้กเพื่องานสังสรรแนะนำให้ทำก่อนวันงาน 1 วัน เพื่อที่เค้กจะได้เซทตัวก่อนตัดเสิร์ฟค่ะ

มีร่องรอยของการชิม 55555

ชิ้นนี้ถูกตัดชิมตั้งแต่ก่อนนำเข้าตู้เย็น 

ขอบคุณเพื่อน ๆ ที่ติดตาม ขอให้สนุกกับการทำเค้กนะคะ

วิธีทำปลาทูเค็ม(แบบไม่มีกลิ่นเหม็น)

          หนึ่งในเมนูที่ได้ หลังจากอาทิตย์ก่อนไปตะเวนซื้อของในตลาดสด "บดูมาร์เก็ต" ประเทศมาเลเซีย  มาคือ "ปลาทูเค็มทอดเครื่องต้มยำ" วันนี้จะมาบอกวิธีการทำปลาทูเค็มแบบง่าย ๆ นี่ถ้าไม่อยู่ต่างแดนก็คงทำไม่เป็น เพราะอยู่ไทยอาหารการกินอุดมสมบูรณ์ อยากกินอะไรก็มีให้เลือกซื้อเยอะแยะไปหมด แต่พอมาอยู่ต่างประเทศแบบนี้ อยากกินก็ต้องทำเองนะคะ 

ก่อนจะไปทำกับข้าวกัน เอาภาพตลาดสดมาฝากจ้า

มีปลาหลากหลายชนิดมาก ๆ ค่ะ ปลาดุกตัวละ 10 บาทเอง ถูกมาก ขายกันเป็นกิโล ซื้อมาย่างเกลือ กินกันข้าวเหนียวร้อน ๆ ก็ฟินสุดๆแล้วแหล่ะ

นี่ก็ไก่ฟาร์ม เยอะไปหมด ถูก ๆ ทั้งนั้นค่ะ ตัวละร้อยกว่าบาท

รับกุ้งสักโลมั้ยค่ะ เต็มศูนย์เป็นราคาไทยได้เลยค่ะ




       





           หลาย ๆ คนอาจจะยังไม่รู้ว่าวิธีการทำปลาทูเค็มนั้นเค้าทำกันยังไง บอกได้เลยว่า ง่ายมัก ๆ แต่ก่อนต๋อยก็ไม่รู้หรอกค่ะว่าทำยังไง ตั้งแต่เป็นสมาชิกเพจห้องครัวต่างแดนเนียะ ทำได้หลายอย่างเลย พอไปตลาดสดก็ไม่ลืมที่จะซื้อปลาทูติดไม้ติดมือมาด้วยแทบทุกครั้ง ถ้าไม่ทำปลาทู ก็ทำปลาทูเค็ม เดี๋ยววันหลังลงวิธีทำปลาทูนึ่งให้ดูบ้างละกันไปดูวิธีการทำกันเลยค่ะ

1. เริ่มจากการนำปลาทู มาล้างควักไส้ออกให้หมดทางเหงือก ระวังอย่าให้พุงทะลุ เดี๋ยวไม่สวย แต่ขาดก็ไม่เป็นไรค่ะ ทำทานเองไม่ได้ทำขาย 

2.ล้างให้สะอาด ซับด้วยกระดาษให้แห้ง นำกล่องพลาสติกที่สามารถบรรจุปลาได้ทั้งหมด โรยเกลือเม็ดบดหยาบให้ทั่วกล่อง วางปลาลงไปทีละชั้น โรยเกลือ ถ้าทำเยอะก็ใส่ปลาและเกลือสลับกันไปจนหมดนะคะ ใส่เกลือเยอะ ๆ นะคะไม่ต้องกลัวเค็ม ถ้าเกลือน้อยปลาจะเน่า เหม็นไม่รู้ด้วยนะจ๊ะ

3.จากนั้นปิดฝาให้สนิท ห่อด้วยพลาสติกแร้ป นำเข้าตู้เย็น เลือกความเค็มในระดับที่คุณต้องการคือ 1 วัน 1 คืน เค็มน้อย , 2 วัน 1 คืน เค็มกำลังดี ,และ 2 วัน 2 คืน เค็มมากหน่อย 

4.เมื่อหมักปลาตามเวลาที่ต้องการแล้วก็ให้นำมาล้างเกลือ ซับให้แห้ง เก็บใส่กล่อง ห่อด้วยพลาสติกนำเข้าตู้เย็น สามารถเก็บไว้ได้นาน โดยที่กลิ่นไม่เหม็นกวนใจพ่อบ้านค่ะ หรือใครจะทำกับข้าวเลยก็ย่อมได้ 

วันนี้มานำเสนอปลาทูเค็มทอดเครื่องต้มยำ 

เตรียมวัตถุดิบ พริกแห้งหั่น หอมแดงซอย กระเทียมสับ ตะไคร้หั่นเป็นท่อน ใบมะกรูด และข่าแว่น 

วิธีทำ ตั้งกระทะใส่น้ำมันเล็กน้อย จากนั้นนำปลาทูเค็มลงไปทอดให้สุกทั้ง 2 ด้าน แล้วใส่เครื่องต้มยำที่หั่นไว้ลงไปผัดจนหอม ตักใส่จาน โรยด้วยน้ำมะนาว เสิร์ฟกับข้าวเหนียวหรือข้าวสวยร้อน ๆ ค่ะ

ขอบคุณเพื่อน ๆ ที่ติดตาม ขอให้สนุกกับการทำกับข้าวนะคะ

แกงโฮ๊ะ คั่วโฮ๊ะ อาหารเหนือ

          วันนี้มีอาหารเหนือที่นาน ๆ ทำที มาฝากเพื่อน ๆ เหตุที่นึกอยากกินเพราะได้คุยกับพี่ติ๊ก คนเชียงใหม่ ในห้องครัวต่างแดนว่า ต๋อยมีหน่อไม้อยู่ แต่ยังไม่ได้นำออกมาทำอะไรกินเลย และต้องรีบจัดการให้หมด ก่อนที่สามีจะกลับบ้าน เนื่องจากกลิ่นหน่อไม้ดองนั้นค่อนข้างแรง หากสามีอยู่คงเรื่องใหญ่แน่ ๆ 

          และพี่ติ๊กก็พูดขึ้นว่าถ้าพี่มีหน่อไม้พี่มักจะทำแกงโฮ๊ะ จึงเกิดอยากกินขึ้นมาทันทีทันใด วันนี้ก่อนไปรับอลิสที่โรงเรียน แม่ขอแวะซุปเปอร์มาเก็ตแป้บๆ ได้ถั่วฝักยาว พริกหวาน ฟักทอง กะหล่ำปลี จัดเต็มเลย อย่างอื่นก็มีครบหมดแล้ว ไปลุยกันดีกว่าค่ะ

       
          สำหรับชื่อแกงโฮ๊ะ หรือคั่วโฮ๊ะ นั้นเป็นที่ทราบกันดีว่า คำว่าโฮ๊ะ ในภาษาเหนือหมายถึง ผสมปนเป, ของหลาย ๆ สิ่ง หลายๆอย่างปนอยู่ในที่เดียวกัน แกงโฮ๊ะจึงหมายถึงแกงที่รวมหลาย ๆ สิ่งไว้ในชามเดียวกัน เกิดจากอาหารเหลือในแต่ละมื้อ นำมาผสมกัน แล้วนำไปผัด ปรุงรสใหม่ กลายเป็นแกงโฮ๊ะหรือคั่วโฮ๊ะ (คั่วแปลว่าผัดจ้า)

ที่เรียกว่าแกงโฮ๊ะก็เพราะใส่สารพัดผัดนี่แหล่ะค่ะ

ส่วนผสม

ขาไก่ 2 ขาใหญ่ หั่นเป็นชิ้น ใช้หมู3ชั้นหรือเนื้อหมูแทนได้ค่ะ
หน่อไม้ดอง 1 ถุง ล้างน้ำบีบน้ำออกให้หมด ถ้าเปรี้ยวมากล้างหลาย ๆ น้ำหน่อยนะคะ
วุ้นเส้นถุงเล็กแช่น้ำ 2 ถุง
ใบมะกรูดฉีกตามชอบ 6-7 ใบใส่เยอะ ๆ หอมดีค่ะ
กะเพราะ 1 ถ้วยสำหรับกะเพราะสด 
     *ต๋อยใช้กะเพราะที่ผัดกับกระเทียมแล้วแช่แข็งในที่อัดน้ำแข็ง ใช้ 3 ก้อนค่ะ
ข่าหั่น 5-6 แว่น
ตะไคร้หั่น 3-4 ท่อน
น้ำมันพืช 2-3 ชต.
ผัดสดตามชอบ : กระหล่ำปลี ฟักทอง มะเขือเปาะ มะเขือพวง ถั่วฝักยาว ถั่วพลู แครอท พริกหวาน



ปรุงรส : ซีอิ้วขาว น้ำปลา และผงปรุงรสฟ้าไทย 

เครื่องแกง

พริกแห้งเม็ดใหญ่แช่น้ำ 5-6 เม็ด
พริกแห้งเม็ดเล็กแช่น้ำ 5-6 เม็ด(ตามชอบได้จ้า)
กระเทียม 5 กลีบ(กระเทียมกลีบใหญ่)
หอมแดง 3 หัว
ตะไคร้ซอย 1-2 ต้น
ขมิ้น 1 ชช.
กะปิ 1 ชช.
เกลือ1 ชช.

    ** ใครใครโขลกโขลก.....ใครใคร่ปั่นปั่น นะคะ ไม่ว่ากัน งานนี้ต๋อยขี้เกียจบรรจงแล้ว ปั่นง่ายสุดค่ะ หากหนืดเกินปั่นยากก็เติมน้ำลงไปนิดหน่อยค่ะ



วิธีทำ

1.ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันลงไป ผัดเครื่องแกงให้หอม ไฟกลาง-อ่อน หากปั่นแล้วเติมน้ำ พริกแกงจะกระเด็นกระดอนระวังด้วยนะคะ จากนั้นใส่ไก่ลงไปผัดจนสุก ปิดฝาไว้ได้ชั่วคราวเพราะพริกมันจะกระเด็น หมั่นคน

มีเพิ่มแครอทไปอีกเล็กน้อยเพื่อความสวยงามและสุขภาพ

2.พอไก่สุกก็ใส่หน่อไม้ลงไปผัด จากนั้นเติมน้ำเล็กน้อย พอเดือดใส่มะเขือ ฟักทอง ผัดไปสักพักก็ใส่ผักที่เหลือลงไป ผัดพอให้ผักสุก

3.ใส่ตะไคร้และข่าหั่น ปรุงรสด้วยน้ำปลา ซีอิ้วขาว ผงปรุงรส ตามชอบนะคะตรงนี้ไม่ว่ากัน ใครอยากใส่ชูรสตามสบายเลย ชิมรสเผ็ด เค็ม อร่อย  จากนั้นใส่วุ้นเส้น กะเพรา และใบมะกรูด  คนให้เข้ากันตักเสิร์ฟได้เลยจ้า

ครั้งแรกที่เจอไข่แฝด เสียดายไข่แดงอีกฟองแตก ทานกับไข่ดาวอร่อยเหาะค่ะ

ขอคุณทุกคนที่ติดตามค่ะ ขอให้มีความสุขในการทำกับข้าวนะคะ

Nutella & Peanut Flower Bread : ขนมปังดอกไม้ช็อคโกแลตนูเทลล่าและเนยถั่ว

          บ้านนี้ทานขนมปังเปลืองมาก ยิ่งถ้าพ่อบ้านอยู่ด้วยนะก็ แป้บเดียวก็หมด (ปกติจะเดินทางไปต่างประเทศบ่อย) วันก่อนเพิ่งทำขนมปังกระเทียมชีสไปวันเดียวหมด เรายังได้ทานแค่ 2 ชิ้นเอง จากทั้งหมด 20 ชิ้น วันนี้เลยมีข้ออ้างเข้าครัวทำขนมปังอีกแล้ว อิอิ

          เราดูวีดีโอการทำขนมปังชุดนี้มาพักใหญ่ แต่ไม่มีโอกาสได้ทำ ครั้งนี้เลยไม่พลาดที่จะลอง แต่ก็ตามสไตร์ต๋อยคือจะไม่ค่อยทำตามสูตรเค้าเท่าไหร จะปรับเพื่อให้สูตรมันลงตัวกับตัวเองมากที่สุด บางครั้งก็ปรับเพราะความงก แฮะๆ อย่างเช่นรอบนี้เค้าใช้ไข่แดง 2 ฟอง เราก็เปลี่ยนเป็นใช้ไข่ทั้งฟอง 1 ฟอง ง่ายมั้ย ประหยัดด้วย สูตรต้นฉบับพร้อมวีดีโอ (Thank you Steve's Kitchen for the recipe) คลิกที่นี่ Steve's kitchen,Click hrer

ส่วนผสม
แป้งขนมปัง 400 กรัม
แป้งเค้ก 50 กรัม
น้ำตาลทราย 50 กรัม
ยีสต์แห้ง 2 ชช.
เกลือ 1 หยิบมือ
เนยจืดละลาย 30 กรัม
นมอุ่น 180 ml
ไข่ไก่ 1 ฟอง

สำหรับทาไส้ 
นูเทลล่าและพีนัทบัตเตอร์


          ในการจัดทำวีดีโอ มีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นเล็กน้อยแต่สำคัญ คือ ช่วงที่ต๋อยถ่าย การบิดเกรียวขนมปัง ถ่ายแล้วแต่ไม่ติด ซึ่งอาจทำให้เพื่อน ๆ ไม่เข้าใจว่าบิดยังไง ดังนั้นหากใครยังงงให้ไปดูวีดีโอต้นฉบับจากลุงสตีฟด้านบนนะคะ ส่วนวีดีต๋อยดูได้ที่นี่ค่ะ  สำหรับวีดีโอในการทำ คลิกที่นี่ค่ะ


วิธีทำ

1.ผสมแป้งทั้ง 2 ชนิดให้เข้ากัน ใส่ยีสต์แห้ง และน้ำตาลลงไปคนให้เข้ากัน
2.จากนั้นใส่เกลือ และของเหลว คือ นม ไข่ และเลยละลายอุ่น ๆ คนให้พอเข้ากันจากนั้นนวดด้วยความเร็วปานกลางประมาณ 10 นาที หรือจนกว่าจะได้โดว์ที่เนียน นุ่ม มีความยืดหยุ่นดี

4.เมื่อนวดเสร็จแล้วคลึงโดว์ให้เป็นก้อนกลม เตรียมอ่างทาไขมันให้ทั่ว นำโดว์ลงไปคลุกกับน้ำมันเล็กน้อย ปิดด้วยพลาสติก พักไว้ที่อุณหภูมิห้องเพื่อให้ขึ้นเป็น 2 เท่า ใช้เวลาประมาณ 1-1.30 ชม. 

ใครใช้วิธีนี้ อย่าลืมเช็คนะ เดี๋ยวแป้งฟูเกินไป จะเหม็นกลิ่นยีส ทานไม่อร่อยค่ะ 

แต่วันนี้ต๋อยเริ่มทำดึกแล้ว เลยต้องหาตัวช่วย โดยการนำแป้งไปพักไว้ในเตาอบ และใส่น้ำร้อนในชาม นำไปวางไว้ใกล้ ๆ กัน เพียงแค่ 40-45 นาทีก็ขึ้นเป็น 2 เท่าแล้วค่ะ วิธีนี้ใช้ได้กับแม่บ้านที่อยู่ในเมืองหนาว หิมะตก เพราะถ้าหนาวเกินไปยีสต์ก็ไม่ทำงานค่ะ

5. เมื่อโดว์ขึ้นเป็น 2 เท่าแล้วให้ชกไล่ลม โรยแป้งนวลบนโต๊ะ (คือแป้งที่ใช้ทำขนมปัง ถ้าใช้แป้งสาลีเอนกประสงค์เป็นส่วนผสม แป้งนวลก็คือแป้งสาลีเอนกประสงค์นะคะ คือใช้แป้งอะไรทำขนม แป้งนวลก็ควรจะเป็นแป้งชนิดนั้น ๆ ค่ะ) รวบโดว์ให้เป็นก้อน ตัดแบ่งเป็น 3 ก้อนเท่า ๆ กัน

รอบหน้าจะทาให้เยอะกว่านี้

6.นำแป้งก้อนที่ 1 มารีด (เก็บแป้งอีก 2 ก้อนในอ่าง คลุมผ้าไว้ด้วยนะคะ) ค่อย ๆ รีดให้เป็นวงกลม ขนาดเส่นผ่านศูนย์กลางใหญ่กว่า 10 นิ้ว เล็กน้อย จากนั้นนำจานที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางขนาด 10 นิ้วมาคลอบเพื่อทำให้เป็นรอย กด ๆ นิดหน่อยจะได้เห็นรอยชัด ๆ นะ

7.นำนูเทลล่าใส่ไมโครเวฟเพื่อให้ง่ายต่อการทาบนแป้งโดว์ จากนั้นทาให้ทั่วในวงกลมที่เรามาร์คไว้ ทาเยอะอร่อยคะ่ ทาน้อยมันจะไหลออกตอนเราอบ :( ทาเสร็จวางบนกระดาษไข

8.ทำซ้ำเช่นเดียวกันกับแป้งก้อนที่ 2 รีดให้เป็นวงกลมแล้วมาร์คด้วยจาน แต่แผ่นนี้ทาพีนัทบัตเตอร์นะคะ หรือใครจะใช้นูเทลล่าเหมือนกันก็ได้ค่ะไม่มีปัญหา ตามแต่ใจชอบ จากนั้นนำไปวางทับบนแผ่นที่ 1 

9.สำหรับแผ่นที่ 3 นั้น รีดเป็นวงกลมเสร็จแล้วก็ให้นำไปวางทับแผ่นที่ 2 ใช้จานคว่ำทับเพื่อให้เกิดรอย จากนั้นตัดให้เป็นวงกลมตามรูปจานเลยจ้า

ขออภัยที่รูปภาพที่ใช้ในการอธิบายยังไม่ละเอียดพอ

10.เมื่อได้วงกลมแล้วให้นำแก้วน้ำมาวางไว้ตรงจุดศูนย์กลางของแป้งโดว์ ใช้มีดคมๆ ตัดแบ่งออกเป็น 16 ส่วน ตามเข็มนาฬิกา คือแบ่ง 4 จากนั้นแบ่ง 8 และ 16 เมื่อตัดเสร็จแล้ว ให้จับบิดเป็นเกรียวทีละคู่ โดยมือซ้ายบิดออกไปทางซ้าย มือขวาบิดออกไปทางขวา ด้านละ 2 รอบ 

จับปลายประกบเข้าด้วยกัน ยกขึ้นตั้ง บีบตรงริมให้แน่น จับจีบด้านล่างให้ทแยงเข้าด้านในเล็กน้อย จัดแต่งรูปทรงให้สวยงาม ทำจนครบทั้ง 8 คู่ คลุกผ้าไว้ พักโดว์ 20 นาที , เปิดเตาอบที่อุณหภูมิ 180C หรือ 350F ไฟบนล่าง

11.ก่อนนำเข้าเตาอบ ให้ทาด้วยไข่ผสมน้ำเล็กน้อย วางขนมไว้ตรงกลางของเตา ใช้เวลาในการอบ 20 นาที หรือจนกว่าขนมจะมีสีเหลืองทองสวยงาม เมื่อเสร็จแล้วนำออกมาวางพักไว้บนตะแกรง รอให้อุ่นก็ตัดเสิร์ฟได้เลยค่ะ

หอมและนุ่มมาก ๆ ค่ะ

          จากสูตรแป้งที่ได้ ต๋อยมีแอบแบ่งแป้งออกมาเล็กน้อย ประมาณ 180 กรัม เพราะต้องการทำขนมปังน้ำตาลอบเชย เนื่องจากเห็นคุณนิ่ม แม่บ้านในห้องครัวต่างแดน ได้ทำลงไว้ แต่ด้วยความที่ส่วนผสมของคุณนิ่ม มีตราวัดเป็น DL ซึ่งตราชั่งต๋อยไม่มี (ขี้เกียจแปลงด้วยแหล่ะ แฮะๆ) อีกอย่างไม่อยากทำสูตรใหญ่ เดี๋ยวทานไม่หมดจะยุ่ง เลยขอแบ่งแป้งจากสูตรนี้มาทำเล็กน้อยค่ะ

วิธีทำก็ง่าย ๆ ค่ะ รีดแป้งให้เป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า โรยน้ำตาลทรายและผงซินาม่อนหรืออบเชย จากนั้นพับ 3 เหมือนพับจดหมาย แล้วตัดให้เป็นชิ้น จะได้รูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าเล็ก ๆ แล้วใช้มีดกรีดตรงกลางแป้งโดว์แต่ไม่ให้ขาดออกจากกัน แล้วจับปลายด้านนึงพลิกกลับหน้าเป็นหลัง  จัดแต่งให้สวยงาม ก็จะได้ขนมปังอบเชยหอม ๆ ไว้ทานแล้วค่ะ

งานนี้จะเรียกว่าส่งการบ้านคุณนิ่มก็พูดไม่ได้เต็มปากเพราะเราไม่ได้ใช้สูตรคุณนิ่มเลย แต่ส่วนผสมทุกอย่างที่คุณนิ่มใช้และที่ต๋อยใช้ เหมือนกันหมด ต่างกันที่ปริมาณของเหลวและของแห้งเท่านั้นค่ะ 

ขอบคุณเพื่อน ๆ ทุกท่านที่ติดตาม ขอให้สนุกกับการทำขนมปังนะคะ

Garlic Cheese Bread : ขนมปังกระเทียมชีส (สูตร3)

          วันนี้มีขนมปังกระเทียมสูตรที่ 3 มาฝากเพื่อน ๆ หลังจากที่อาทิตย์ก่อน ส่งขนมปังกระเทียมสูตร 1 และ 2 ไปแล้ว สูตรนี้มาพร้อมกับวิธีการทำแป้งโดว์ ง่ายมากถึงมากที่สุด สำหรับสูตรต้นฉบับ คลิกที่นี่ค่ะ ไปดูวิธีการทำกันเลยดีกว่า

          วันนี้ขอออกตัวก่อนว่าไม่มีรูปประกอบตอนทำเลย เพราะต๋อยลืม :( มัวแต่ถ่ายวีดีโอ ขอโทษทีนะ ถ้าทำรอบใหม่สัญญาว่าจะลงภาพให้สำหรับ คลิปวีดีโอในการทำ คลิกที่นี่ค่ะ

Video Click Here


ส่วนผสมแป้งโดว์ : Ingredients

แป้งสาลีเอนกประสงค์ 300 กรัม (300 g All purpose flour)
แป้งไรย์ หรือ โฮลวีท 70 กรัม (70 g Rye flour)
น้ำตาลทราย 1 ชต. (1 Tbsp sugar)
ยีสต์แห้ง 2 ชช. (2 tsp Active dry yeast)
เกลือ 1 ชช. (1 tsp Salt)
น้ำมันพืช 1 ชช. (1 Tbsp Vegetable Oil)
น้ำอุ่น 1 ถ้วย+1ชต. (1 cup warm water+1 Tbsp) 

** ต้นฉบับใช้แป้งสาลีเอนกประสงค์อย่างเดียว แต่เพื่อสุขภาพต๋อยตัดแป้งขาวเพิ่มแป้งไรย์ลงไป แต่แป้งประเภท Rye หรือ Whole wheat นั้นจะต้องการปริมาณน้ำที่เพิ่มขึ้นมากกว่าแป้งขาว ดังนั้นจึงได้มีการเพิ่มน้ำอีก 1 ชต.ลงไปในสูตร เพื่อที่ขนมปังจะได้ไม่แห้งจนเกินไป


ส่วนผสมเนย :Garlic Herb Butter

เนยจืดอุณหภูมิห้อง 100 กรัม (100 g Unsalted butter)
กระเทียมขูดหรือสับ 3 กลีบ (3 Cloves garlic,chopped)
พาสเลย์ 1 ชต. (1 Tbsp Parsley,finely chopped)
พาเมซานชีส 3 ชต. (3 Tbsp Parmesan Cheese)
แชดด้าชีส 180-200 กรัม (180-200 g Cheddar Cheese)
เกลือหยิบมือ (Pinch of Salt)
พริกไทย 1/4ชช. (1/4 Black Pepper)


step 

1.mixed the dry ingredients in the large bowl or mixer bowl then add wet ingredients. Knead the dough for 10-15 mins by hands or 5 mins by mixer until smooth  and elastic 

2.remove the bowl,cover with lightly oiled clear film and leave to rise a warm place for about 1-1.30 hour , or until doubled in size

3.prepare the garlic herb butter : combine the butter,garlic,salt,pepper and parsley,mix well

4.Round baking pan 9-10" ,lightly oiled and preheat the oven 200C or 4ooF 

5.gently knead the dough to knock 2-3 times, Flatten into a rectangular shape about 15x10". 

6.spread the surface about 3/4 of garlic herb butter, sprinkle over cheddar cheese and Parmesan cheese. and gently roll the dough then fuse two ends together.

7.cut the dough almost all the way through about 1"-1 1/2" , place the dough in baking pan for 10 min. before baking spread with the remaining garlic herb butter on the top. bake for 20 min or until golden brown

8.place the bread cool on the wire rack before serving



วิธีทำ

1.ผสมของแห้งเข้าด้วยกัน คนให้เข้ากัน

2.ใส่ของเหลว คนให้แป้งเป็นก้อนแล้วนวดด้วยเครื่องใช้เวลาประมาณ 5 นาที หากนวดมือ 10-15 นาที

3.นวดจนแป้งไม่ติดมือหรืออ่าง ทำเป็นก้อนกลม พักในอ่างที่ทาด้วยไขมัน ปิดด้วยพลาสติกแร้ป 1-1.30ชม.

4. เตรียมส่วนผสมเนย ใช้เนยนิ่ม ๆ บี้ด้วยช้อนหรือส้อม จากนั้นใส่เกลือ พริกไทย พาสเลย์และกระเทียมคนให้เข้ากันพักไว้

5.เมื่อพักแป้งได้ที่และโดว์ขึ้นเป็น 2 เท่าแล้ว  ชกไล่ลม 2-3 ครั้ง

6.นำแป้งออกมารีดกับโต๊ะ ให้มีขนาด 15x10 นิ้ว

7.ทาด้วยส่วนผสมเนยที่เตรียมไว้ให้ทั่ว ให้แบ่งเนยเก็บไว้ทาหน้าเล็กน้อย  โรยชีส ชอบเยอะใส่เยอะได้นะคะ

8.ม้วนขนมปังเข้าหาตัว ปิดรอยต่อให้มิด คลึงขนมปังให้มีขนาดเท่า ๆ กัน

ตรงรอยต่อบีบให้แป้งติดกันดีๆหน่อยนะเวลาอบจะได้ไม่แยกจากกัน

9.นำปลายทั้ง 2 ด้านมาต่อกันบีบรอยต่อให้สนิท จากนั้นใช้มีดตัดแต่อย่าให้ขาดจากกัน ความห่างประมาณ 1-1.5 นิ้ว

หั่นเป็นชิ้นแต่ไม่ขาดจากกันนะคะ

10.ทาหน้าด้วยเนยที่เหลือ ทาพิมพ์กลมด้วยไขมัน (พิมพ์เค้ก หรือถาดอบ ขึ้นอยู่กับเส้นรอบวงของขนมปัง) นำขนมปังใส่พิมพ์ พักไว้ 10 นาที

ทาเนยที่เหลือให้ทั่ว

11.วอร์มเตาอบรอที่ 200C หรือ 400F เมื่อเตาพร้อม นำขนมปังเข้าอบนาน 20 นาที ไฟบนล่าง

เหลืออีก 5 นาที สุดท้าย

12. เมื่ออบเสร็จแล้ว ให้ทาขนมปังด้วยเนยที่ค้างอยู่ในถาด จากนั้นนำออกมาวางบนตะแกรงรอให้อุ่นตัดเสิร์ฟได้เลยค่ะ

พออุ่นปุ๊บพ่อบ้านจัดรวดเดียว 8 ชิ้นค่ะ เย็นนี้ไม่ต้องทำอาหารเลย

หมายเหตุ : สูตรนี้ถือว่าผ่านค่ะ เพราะขนมปังออกมานิ่ม ไม่แข็ง แม้จะมีส่วนผสมของแป้งไรย์ แต่ใส่ในปริมาณน้อยจึงทำให้พอดี หากใช้แป้งขนมปังและแป้งไรย์หรือโฮลวีท ขนมปังน่าจะแข็งกว่านี้ 
          ส่วนตัวเชื่อว่าหากใครต้องการให้ขนมปังนุ่มนิ่มกว่านี้ ให้ตัดส่วนของแป้งขาวออกสัก 20 กรัมแล้วเปลี่ยนเป็นแป้งเค้ก ขนมปังจะนุ่มกว่านี้ค่ะ
          ขนมปังสูตรนี้สามารถปรับเปลี่ยนไส้ได้หลากหลาย เช่น เบคอน แฮม ชีส, หรือจะเป็นพริกเผาหมูอยอง หรือทำเป็นพิซซ่าโรล ก็ได้ ลองดัดแปลงกันดูนะคะ

 ขอบคุณทุกๆท่านที่ติดตามค่ะ ขอให้สนุกกับการทำขนมปังนะคะ

Garlic Bread : ขนมปังกระเทียม

          "ขนมปังกระเทียม" ยังคงวนเวียนอยู่กับเรื่องขนมปัง เมนูนี้ลูกสาวขอมา เพราะเธอชอบทานเล่น หลังเลิกเรียนขอให้ได้สักแผ่น 2 แผ่นเธอก็พอใจแล้วค่ะ พ่อบ้านเองก็ชอบไม่ต่างจากลูก ส่วนแม่ขอเป็นขนมปังอบเนยน้ำตาลก็พอค่ะ

          ต๋อยคิดว่าหลาย ๆ บ้านก็คงจะชอบทำขนมปังกระเทียมกัน ซึ่งวิธีการทำคงไม่แตกต่างกันมาก ส่วนประกอบง่าย ๆ ก็ขนมปัง กระเทียม เนย เกลือ พริกไทย พาสเลย์ แต่วันนี้ต๋อยจะมานำเสนอขนมปังกระเทียม 2 แบบด้วยกัน คือ แบบกรอบแห้ง และแบบใส่ชีสที่ตัวขนมปังจะกรอบมาก แต่หน้าจะนิ่มและฉ่ำไปด้วยชีสค่ะ แถมขนมปังอบเนยกรอบ ๆ ให้ด้วย ไปดูวิธีการทำกันเลยค่ะ



แบบที่ 1 ขนมปังกระเทียมอบกรอบ

          ต๋อยจะใช้ขนมปังปอนด์ธรรมดาทั่ว ๆ ไป 1 ถุงใหญ่ นำมาตัดครึ่งด้วยกรรไกร จากนั้นวางเรียงกันในถาด ตากแดดให้แห้ง แดดแรง ๆ วันนึงก็แห้งแล้วค่ะ แต่เนื่องจากที่บ้านตอนนี้มลพิษมันเยอะค่ะ สิ่งก่อสร้างแถวบ้านทำกันแทบ 24 ชม.

ดูกันชัดๆอีกทีว่ามันแห้งจริง ๆ ถ้าไม่แห้งขนมปังจะเหนียวนะจ๊ะ

          ต๋อยเลยใช้วิธีอบไฟ 180C หรือ 350F อบด้านละ 5-7 นาที จากนั้นก็ปิดเตาแล้วทิ้งขนมปังไว้ในเตาไปเรื่อย ๆ ค่ะ มันจะแห้งกรอบเอง

          จากนั้นก็หันมาเตรียมส่วนผสมกันค่ะ สำหรับขนมปัง 1 ถุงใหญ่ (พอดีไม่ได้นับว่ามีกี่แผ่น อิอิ) กับปริมาณเนยจืด 110 กรัมจะพอดีกันเดะเลยค่ะ แต่งานนี้ต๋อยแบ่งมาทำขนมปังอบเนยด้วยประมาณ 30 กรัมค่ะ

ส่วนผสมสำหรับขนมปังกระเทียม
เนยจืดอุณหภูมิห้อง 80 กรัม
กระเทียม 4 กลีบ
พริกไทยเล็กน้อย
พาสเลย์แห้ง1/2 ชช. (ใครมีแบบสดก็จะดีมากเลยค่ะ)
เกลือหยิบมือ
น้ำตาล1/4 ชช.

ส่วนผสมสำหรับขนมปังอบเนยน้ำตาล
เนยจืดอุณหภูมิห้อง 30 กรัม
น้ำตาล 1 ชช.
เกลือหยิบมือ

*ถ้าใช้เนยเค็ม ให้ตัดเกลือทิ้งไปนะคะ ไม่ต้องใส่

วิธีทำ
1.เปิดไฟเตาอบที่ 180 C หรือ 350 F นำเนยออกมาจากตู้เย็น รอให้นิ่มสักพัก ก็ขูดกระเทียม หรือใครจะสับละเอียดหรือปั่นก็ตามสะดวกนะคะ ใส่ส่วนผสมทั้งหมด คนให้เข้ากัน รวมทั้งส่วนผสมของขนมปังอบเนยน้ำตาลด้วย เตรียมไปพร้อม ๆ กันเลยค่ะ

2.จากนั้นก็ลงมือทาส่วนผสมเนยลงบนขนมปังด้านใดด้านหนึ่งให้ทั่ว อย่ามากหรือน้อยเกินไป

ขนมปังกระเทียมทาเนยเสร็จแล้วรออบค่ะ

ส่วนนี่เป็นขนมปังทาเนยน้ำตาล ก่อนอบโรยน้ำตาลอีกเล็กน้อยค่ะ

3.แล้วนำเข้าเตาอบ อบ 5 นาที จากนั้นกลับถาดอบต่ออีก 5 นาที ถ้าหน้ายังไม่สวยให้อบต่ออีก 1-2 นาที แต่อย่าปล่อยนะคะ เพราะไม่งั้นไหม้ค่ะ เพราะของต๋อยคราวนี้ก็เกือบไหม้ เพราะหันไปล้างจานแป้บเดียวเอง เกือบทานไม่ได้ หุหุ อบเสร็จแล้วก็ผึ่งบนตะแกรงให้เย็นแล้วเก็บใส่กล่องล็อคๆได้เลยค่ะ

เกือบไหม้ละค้า

อบเสร็จแล้ว ผึ่งบนตะแกรงให้เย็นแล้วก็เก็บใส่กล่องแบบนี้ อยู่ได้นานเลยค่

แบบที่ 2 ขนมปังกระเทียมชีส

ขนมปังอิตาเลี่ยนทำเองค่ะ

ส่วนประกอบ
ขนมปังเปลือกแข็ง 1 แท่ง
กระเทียม 3-4 กลีบ
น้ำมันมะกอก 4 ชต.
พาสเลย์ 1 ชต.
พริกไทย 1/4 ชช.
เกลือป่น 1/4 ชช.
พาเมซานชีสตามชอบ
เชดด้าชีสตามชอบ
มอซซาเรลล่าชีสตามชอบ

**ปริมาณส่วนผสมลดเพิ่มตามชอบได้นะคะ 

วิธีทำ
1.เปิดเตาอบไฟ 200C หรือ 400F หั่นครึ่งขนมปังโดยที่ไม่ให้ขาดออกจากกัน วางบนกระดาษฟอยด์ และวางบนถาดรองอบ
2.ปั่นส่วนผสมทุกอย่างให้เข้ากัน ยกเว้นชีส 

รอบนี้ไม่มีพาสเลย์แต่ใช้ผักชี อร่อยเหมือนกันค่ะ

3.ทาส่วนผสมให้ทั่วขนมปัง ประกบขนมปังให้เข้ากัน ห่อด้วยฟอยด์ จากนั้นอบนาน 10 นาที
4นำขนมปังออกมาแกะฟอยด์ แผ่ขนมปังออก โรยชีสให้ทั่ว แล้วอบต่ออีก 10-13 นาที หรือจนกว่าหน้าขนมปังจะเหลืองสวย

เหลืองประมาณนี้กำลังอร่อยค่ะ

พักให้เย็นสักหน่อยตัดเสิร์ฟได้เลยค่ะ โลฟนี้ออกไปได้ไม่ถึง 5 นาทีหมดค่ะ(ปาร์ตี้)

ขอบคุณเพื่อน ๆ ทุกคนที่ติดตามค่ะ ขอให้สนุกกับการทำอาหารนะคะ