6 ธันวาคม 2557

Cranberry Cream Cheese Rye Buns : ขนมปังไรย์แครนเบอรี่ครีมชีส

          เมื่อครั้งที่อยู่สิงค์โปร์ ต๋อยจะชอบซื้อขนมปังแครนเบอรี่ครีมชีสทานบ่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็นร้าน Bread talk หรือร้านเบเกอรี่ทั่วไป เพราะชอบที่ขนมปังนุ่ม และหอมครีมชีสมาก ๆ ชอบทานแต่ไม่รู้ว่าเค้าทำกันยังไง วันนึงก็นั่งเปิดหาสูตรขนมปังไปเรื่อยเปื่อยจนกระทั่งไปเจอสูตรที่บล็อคของแม่เจเจ สูตรต้นฉบับ Clik here คลิกที่นี่ ครีมชีสเหลือจากการทำชีสเค้กไปเมื่อวันก่อนอยู่พอดีจัดการซะเลย



วีดีโอ My video Click Here



          ตามสไตร์ของต๋อยที่ไม่ค่อยจะทำตามสูตรเค้าเท่าไหร เลยมีการปรับเปลี่ยนส่วนผสมแป้งเล็กน้อย เพื่อสุขภาพและทำให้ขนมปังนุ่มมากขึ้น Bread Talk ก็ Bread Talk เถอะค่ะ ต่อไปนี้ไม่ได้แอ้มเงินเราแล้ว หุหุหุ......หัวเราะอย่างผู้ชนะ สูตรนี้ถือเป็นอีกสูตรในดวงใจเลย ชอบมากๆ  ไปดูสูตรที่ต๋อยทำกันเลยดีกว่าค่ะ


ส่วนผสมแป้งเปียก



หน้าตาแป้งเปียกจ้า

แป้งขนมปัง 50 กรัม
น้ำเดือด 75 กรัม



ห่อพลาสติกแล้วเข้าตู้เย็น 1 คืน

วิธีทำ เทน้ำเดือดลงในแป้ง คนเร็ว ๆ จนเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน ห่อด้วยพลาสติก เก็บในตู้เย็น 1 คือ หรือ 12 ชม.


ส่วนผสมแป้งโดว์





แป้งขนมปัง 180 กรัม
แป้งไรย์ 30 กรัม (ใครไม่มีใช้แป้ง โฮลวีทแทนได้ค่ะ)
แป้งเค้ก 20 กรัม
น้ำตาลทราย 50 กรัม
ยีสต์แห้ง 6 กรัม หรือ1 1/4 ชช.
เกลือ 1/2 ชช.
นมอุ่น 50 กรัม
ไข่ไก่ 1 ฟอง(64กรัม)
เนยจืดนิ่มๆ 50 กรัม
น้ำมันมะพร้าว 1 ชช.
แครนเบอรี่ 50 กรัม

*ส่วนผสมทุกอย่างต้องอยู่ในอุณหภูมิห้องนะคะ รวมทั้งแป้งเปียกด้วย ก็ให้นำออกมาวางไว้ข้างนอกก่อนที่จะเริ่มทำขนมปังประมาณ 30 นาที 


สูตรแป้งโดว์สามารถปรับเปลี่ยนเป็น 
แป้งขนมปัง 210 กรัม
แป้งเค้ก 20 กรัม

หรือ
แป้งขนมปัง 190 กรัม
แป้งสาลีเอนกประสงค์ 40 กรัม


ส่วนผสมไส้ครีมชีส

1.เนยจืดนิ่มๆ 40 กรัม
2.ครีมชีสอุณหภูมิห้อง 200 กรัม
3.น้ำตาลไอซิ่ง 50 กรัม
4.เกลือป่นหยิบมือ

วิธีทำ ตีเนยและน้ำตาลไอซิ่งให้ฟูเนียน โดยทยอยใส่น้ำตาลลงไป จากนั้นใส่ครีมชีสตีจนขึ้นฟู ใส่เกลือเล็กน้อย ตีต่อให้เข้ากัน พักในตู้เย็น 30 นาที 

ต๋อยไม่ได้ใส่ส่วนผสมทุกอย่างเหมือนกับสูตรต้นฉบับเลย เนื่องจากต้องการให้มีรสชาติของครีมชีสเต็ม ๆ และลดปริมาณน้ำตาลลงจากสูตร 30 กรัม หลังจากตีเสร็จชิมดูก็หวานในระดับที่ต้องการ หากใครอยากทำตามสูตรจริง ๆของเค้า คลิกไปที่ลิงค์สูตรต้นฉบับด้านบนได้เลยนะคะ



วิธีทำ

1.นำแครนเบอรี่แช่ในน้ำทิ้งไว้ 30 นาที พักให้สะเด็ดน้ำหรือซับด้วยกระดาษ

2.ผสมแป้งทั้ง 3 ชนิดและเกลือเข้าด้วยกันจากนั้น จากนั้นเติมของแห้ง น้ำตาลทราย ยีสต์แห้ง คนให้เข้ากัน แล้วใส่ลงเหลวลงไป รวมถึงแป้งเปียกด้วย นวดด้วยเครื่องความเร็วปานกลางประมาณ 5 นาที จากนั้นใส่แครนเบอรี่ลงไปนวดต่ออีกประมาณ 5 นาทีหรือจนกว่าจะได้โดว์ที่เนียนนุ่ม 

3.จากนั้นพักโดว์ในอ่างที่ทาไขมัน ปิดด้วยพลาสติก ทิ้งไว้ที่อุณภูมิห้องให้ขึ้นเป็น 2 เท่า ใช้เวลาประมาณ 1 ชม.





4.ช่วงที่พักแป้งก็มาตีครีมชีสกัน เริ่มจากตีเนยและน้ำตาลไอซิ่งให้ขึ้นฟูก่อน จากนั้นเติมครีมชีสลงไปตีจนเป็นครีมข้น เติมเกลือเล็กน้อย แล้วนำไปแช่ตู้เย็นไว้





5.เมื่อแป้งโดว์ขึ้นได้ที่แล้วชกไล่ลม แล้วนำมาตัดแบ่งเป็นก้อน ๆ จำนวน 9 ก้อน น้ำหนักก้อนละ 64 กรัม คลึงแป้งเป็นก้อนกลม พักในถาดที่ปูด้วยกระดาษไข ผ้าคลุมทิ้งไว้ 10 นาที (ที่ทำ 9 ก้อนเพราะว่าจะพอดีกับถาดที่มีอยู่ โดยการวางเป็น 3 แถวๆละ 3 ก้อน)





6.ครบ 10 นาทีแล้วให้นำแป้งก้อนแรกที่คลึงไว้ มาแผ่บนโต๊ะที่โรยแป้งนวลบาง ๆ ตักครีมชีสที่ตีไว้ลงไปใส่ตรงกลางแล้วห่อให้เป็นก้อนกลม นำกลับไปวางไว้ในถาดเช่นเดิม เมื่อทำครบทั้ง 9 ก้อนแล้ว ให้ใช้ถาดอีกหนึ่งใน ทาเนยหรือน้ำมันที่ก้นถาด นำมาวางทับบนแป้งที่ใส่ไส้เรียบร้อยแล้ว พักแป้งต่ออีก 45 นาทีถึง 1 ชม.





7.สำหรับเทคนิคที่ต๋อยใช้คือ เมื่อครบ 45 นาทีให้เปิดเตาอบไว้รอที่อุณหภูมิ 210 C เมื่อเตาอบร้อนได้ที่ ก็ยกทั้ง 2 ถาดเข้าอบพร้อม ๆ กัน ใช้เวลาอบ 12 นาที จากนั้น ยกถาดอันบนออกแล้วอบต่ออีก 2 นาที โดย 1 นาทีให้กลับถาด เพื่อที่หน้าขนมปังจะได้เป็นสีเหลืองทองเหมือน ๆ กันทุกชิ้น



บางก้อนทาเนยแต่บางก้อนไม่ได้ทา

8.อบเสร็จแล้วให้นำออกมาวางพักไว้บนตะแกรง ต๋อยลองทาเนยดูประมาณ 3-4 ชิ้น เพื่อให้เงาสวย แต่ใครจะทาหรือไม่ทาก็ได้ค่ะ ความอร่อยไม่ต่างกัน เมื่ออุ่นแล้วก็จัดเสิร์ฟได้ 


ทาหรือไม่ทารสชาติก็ไม่แตกต่างกันค่ะ


ถ่ายรูปเสร็จจัดการไป 2 ชิ้น อิ่มเลย


ขอบคุณเพื่อน ๆ ที่ติดตาม ขอให้สนุกกับการทำขนมปังนะคะ 








4 ธันวาคม 2557

ยำไก่ : อาหารเหนือ

           เมนูนี้ทำให้ต๋อยคิดถึงบ้านที่เชียงราย เพราะมันคืออาหารพื้นเมืองของคนเหนือ ส่วนใหญ่ยำไก่จะได้ทานก็ต่อเมื่อมีการทำบายสีสู่ขวัญ เนื่องจากการทำบายสีสู่ขวัญจะต้องใช้ไก่บ้านทั้งตัว ต้มพอสุกแต่ไม่เปื่อย มัดปีกมัดเท้า แล้วจัดอยู่ในบายสี พอทำพิธีเสร็จ แม่บ้านก็จะนำไก่นั้นมาฉีกเป็นชิ้น ๆ แล้วปรุงน้ำยำตามแบบฉบับคนเมือง แล้วใส่ไก่ลงไป และตักเสิร์ฟผู้ที่มาร่วมงาน

         มาอยู่ต่างแดนนาน ๆ ก็นึกครึ้มอกครึ้มใจอยากทานขึ้นมา ประกอบกับสวนผักที่คอนโดมีคนปลูกต้นผักไผ่ ผักไฝ่ ผักแพรว หรือตามแต่คนจะเรียกกันไว้ กำลังตั้งยอดสวยงาม เลยแอบไปเด็ดมา 3 ยอด....เสร็จโจร (ลูกบ้านเก็บทานได้ค่ะ แค่อย่าเก็บเยอะจนถอนรากถอนโคนแค่นั้นเอง เค้ามีกฏเขียนแจ้งไว้ให้ทราบ อิอิ)




          ไก่ก็ซื้อมาไว้ครึ่งตัว เลือดหมูแช่อยู่ในตู้ไม่รู้จะทำอะไร หลังจากไปตลาดสดได้มาตั้ง 2 ก้อน เลยยกออกมาจัดเตรียมให้หมดเลย พริกลาบก็มีแล้ว แม่เพื่อนให้มาตั้งแต่อยู่สิงคโปร์ ยังไม่หมดเลย ต้นหอม ผักชี ก็พร้อม เราไปดูวิธีทำกันเลยดีกว่าค่ะ


ส่วนผสม

ไก่ครึ่งตัว หรือแล้วชอบ 
ใบมะกรุด 3 ใบ
ตะไคร้ 1 ต้น
คนอร์ 1 ก้อน
เลือดไก่หรือเลือดหมู 1 ก้อน
พริกลาบ 1-2 ชต.
เกลือ
ต้นหอม
ผักชี
ผักไฝ่ 3 ยอด
*ใครมีหัวปลี เห็ด อยากใส่เพิ่ม ก็นำไปต้มหลังจากไก่สุกแล้วได้นะคะ

วิธีทำที่ 1 กรณีมีพริกลาบ




1.ล้างไก่ให้สะอาด ถ้าไม่ชอบหนังก็เลาะออกให้หมดเลยค่ะ ตั้งน้ำให้เดือด จากนั้นใส่ไก่ลงไปต้ม ใส่คนอร์ ตะไคร้ทุบ ต้มจนกระทั่งไก่สุกแต่ไม่ต้องเปื่อยมาก (ก่อนที่ไก่จะสุก หากใครชอบใส่หัวปลีก็หั่นใส่ลงไปตอนนี้ได้เลยนะคะ) นำชิ้นไก่ออกมาพักไว้ให้เย็น แล้วฉีกตามความยาวของไก่ หรือทำเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยตามชอบ  




2.ตั้งหม้อใส่น้ำมันลงไปด้วยเล็กน้อย อย่าให้ร้อนมาก แล้วนำกระเทียบทุบลงไปผัดให้หอม ใส่พริกลาบลงไปผัด ระวังใส่เยอะจะเผ็ดเกินไป ผัดพอหมอนำไก่ฉีกลงไปคลุกเคล้าให้เข้ากัน จากนั้นจะเทลงในหม้อต้มไก่หรือตักน้ำซุปไก่พร้อมหัวปลีมาใส่ตรงนี้ก็ได้ค่ะ  




3.สำหรับใครที่ชอบเลือด ให้หั่นเลือดแล้วนำไปต้มก่อนสัก 1-2 นาที จากนั้นถึงนำมาใส่ในหม้อยำไก่ พอเดือดก็ชิมรส หากจืดไปก็เติมเกลือ ใครชอบชูรสก็ใส่ได้ค่ะ ปิดแก๊ส ใส่ต้นหอม ผักชี ผักไฝ่หั่นลงไป เป็นอันเรียบร้อยค่ะ 


วิธีทำที่ 2 สำหรับคนที่ไม่มีพริกลาบ


มะแข่น มะแขว่น หน้าตาแบบนี้ค่ะ

ให้ตั้งหม้อใส่น้ำมันเล็กน้อย พอร้อนใส่กระเทียมที่โขลกกับมะแขว่นจนละเอียด เติมพริกป่นลงไปผัดให้หอม แล้วก็นำไก่ลงไปคลุกเคล้า แล้วก็ทำตามขั้นตอนอื่น ๆ ได้เลยค่ะ วิธีนี้ก็อร่อยเหมือนกัน มีกลิ่นหอมของมะแขว่น แต่อาจจะไม่มีกลิ่นหอมเท่ากับเราใช้พริกลาบ เนื่องจากพริกลาบจะมีส่วนผสมของสมุนไพรหลากหลายมาก ทั้งกานพลู ลูกจันทร์ อบเชย โป๊ยกั๊ก ฯลฯ


ขอบคุณทุกท่านที่ติดตาม ขอให้สนุกกับการทำอาหารเหนือนะคะ







3 ธันวาคม 2557

Banana Rye Bread : ขนมปังไรย์กล้วยหอม

         ใครชอบกล้วยหอม เชิญมาทางนี้เลยค่ะ วันนี้ต๋อยมีขนมปังกล้วยหอมมาฝาก เป็นเนื้อขนมปังและมีส่วนผสมหลักเป็นกล้วยหอมถึง 3 ลูก ปรับเปลี่ยนจากสูตรเดิมที่เคยลงไว้ สูตรเดิม คลิกที่นี่ นิดหน่อย เพื่อสุขภาพ ผลที่ได้เป็นที่น่าพอใจ ขนมปังนุ่มและหอมมาก ๆ ยิ่งตอนอบ กลิ่นกล้วยหอมตลบอบอวลเต็มบ้านไปหมด เราไปดูสูตรกันเลยดีกว่าค่ะ


ขนมปังกล้วยหอม


วีดีโอในการทำ คลิกที่นี่


ส่วนผสม





แป้งขนมปัง 250 กรัม
แป้งสาลีเอนกประสงค์ 50 กรัม (ไม่มีแป้งสาลีใช้แป้งขนมปังแทนได้ค่ะ)
แป้งไรย์ 50 กรัม (ใครไม่มีใช้โฮลวีทแทนได้ค่ะ)
ยีสต์แห้ง 2 ชช.(10 กรัม)
น้ำตาลทราย 30 กรัม (2 ชต.)
เกลือ 1/2 ชช.
ไข่ไก่ 1/2 ฟอง (เหลือไว้ทาหน้าขนมก่อนอบ)
กล้วยหอมสุกงอม 3 ลูก (ชั่งแล้วได้ 215 กรัม)
เนยจืดนิ่ม 30 กรัม
Flax seed 2 ชช.
งาขาว 1 ชช.
งาดำ 1 ชช.

สำหรับโรยหน้า : Flax seeds ประมาณ 1 ชช.



วิธีทำ





1.ตวงของแห้งทั้ง 3 ชนิด ใส่ในอ่างผสม ใส่ยีสต์กับเกลือคนละมุม น้ำตาลทราย คนให้เข้ากัน

2.จากนั้นใส่ของเหลว ไข่ไก่ เนยนิ่มๆ และกล้วยหอมบด นวดด้วยเครื่องความเร็วปานกลาง พอเข้ากันใส่งาขาว งาดำ และ Flax seeds นวดต่อ จนได้โดว์ที่เนียนและนิ่ม ใช้เวลาในการนวดประมาณ 10 นาที 


3. รวบโดว์ให้เป็นก้อนกลม พักในอ่างที่ทาไขมันไว้จนทั่ว นำก้อนโดว์ลงไปคลุกกับกับมันที่ติดอ่างพอประมาณ จากนั้นปิดด้วยพลาสติก พักให้โดว์ขึ้นเป็น 2 เท่า หรือประมาณ 45 นาที 




4.นำโดว์มาชกไล่ลม แผ่โดว์บนโต๊ะที่โรยแป้งนวลไว้ แผ่ให้มีความกว้างเท่ากับความยาวของพิมพ์ ม้วนเข้าหาตัว ทุกครั้งที่ม้วนให้กดตรงรอยตรงให้แน่น เพื่อไม่ให้ขนมปังเป็นรูด้านใน ปิดรอยต่อหัวท้ายให้สนิท แล้วพักในพิมพ์ที่ทาด้วยไขมัน ปิดพลาสติก ทิ้งไว้อีก 45 นาที




5.เมื่อใกล้หมดเวลาพัก 10 นาทีสุดท้ายให้เปิดเตาอบที่ 180C หรือ 350F ไฟบนล่าง ทาหน้าด้วยไข่ส่วนที่เหลือ โรยด้วย Flax seeds จากนั้นนำไข่ทาทับอีกชั้น เพื่อป้องกันไม่ให้ Flax seeds หลุดออกมาหลังจากอบเสร็จ




6.พักโดว์ได้ที่แล้วให้นำเข้าอบเป็นเวลา 40 นาที หากอบไปได้สักพักแล้วหน้าขนมปังเริ่มเป็นสีน้ำตาล แต่ว่ายังไม่หมดเวลา ให้นำกระดาษฟอยด์มาปิดหน้าไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้หน้าไหม้




7. พอขนมปังสุกแล้ว นำออกจากเตาใช้มีดแซะด้านข้างเพื่อเช็คดูว่าขนมไม่ติดพิมพ์ จากนั้นพักบนตะแกรงจนเย็น แล้วหั่นเป็นแผ่นตามชอบ


ต้องรอให้เย็นก่อนถึงจะหั่นสวย


ขอบคุณทุกท่านที่ติดตาม ขอให้สนุกกับการทำขนมปังนะคะ



Cooking with Dozo_Toy

ยินดีต้อนรับเข้าสู่โลกของคนชอบทำอาหารกับ Cooking with Dozo_Toy ใครที่ชอบทำอาหาร เรามารวมตัวกันทางนี้จ้า..... เราเป็นอีกคนห...